Sentosa

       เกาะ Sentosa เดิมเป็นเกาะหมู่บ้านชาวประมงตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเากะสิงคโปร์ เดิมมีชื่อว่า Palau Blakang Mati ต่อมาในปี 2515 จึงได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเกาะ Sentosa ซึ่งในภาษามาลายูแปลว่าความสงบสุข ซึ่งในปัจจุบันมีเครื่องเล่น พิพิธพัณฑ์ต่างๆมากมายรวมทั้งสวนสนุกระดับโลกอย่าง Universal Studio Singapore ตั้งอยู่บนเกาะแห่งนี้ ถ้าจะเที่ยวให้ครบทุกอย่างบนเกาะนี้คงจะต้องใช้เวลาหลายวันเลยทีเดียว ดังนั้นจะขอแนะนำสิ่งที่น่าสนใจบางแห่งแล้วกันนะครับ (ตามที่ผู้เขียนได้เคยไปเที่ยวมา) 

       บนเกาะจะมีจุดขายตั๋วเข้าชมสถานที่ต่างๆบนเกาะอยู่หลายจุด รวมทั้งสามารถซื้อตั๋วได้ที่หน้าทางเข้าของสถานที่นั้นๆก็ได้ หรืออาจจะซื้อมาจากต้นทางคือจุดขึ้นรถไฟ Monorail บนชั้น 3 ของห้าง VivoCity ก็ได้เช่นกัน แต่ถ้ากลัวว่าซื้อแล้วจะไม่ได้ใช้แนะนำให้ไปซื้อบนเกาะเลยจะดีกว่านะครับ  สำหรับราคาค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆก็เป็นไปตามตารางด้านล่างนี้ครับ (เม.ย. 2554)


ซึ่งสถานที่ที่ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวมี 3 ที่ด้วยกันดังนี้ครับ 
  • Songs of the Sea (10 SGD) การแสดงแสงสีเสียงตอนกลางคืนริมชายหาด อันนี้แนะนำให้ดูมากกกๆ เลยครับ พลาดไม่ได้ มีการแสดง 2 รอบด้วยกันคือ 19:40 น. และ 20:40 น. ครับ
  • The Merlion อันนี้ที่ขายบัตรคือถ้าจะเข้าไปชมด้านใน (ในตัวสิงโตทะเล) ก็ต้องเสียเงิน 8 เหรียญครับ แต่ชมด้านนอกอย่างเดียวก็ได้ครับ 
  • Images of Singapore อันนี้เป็นพิพิธพัณฑ์แสดงความเป็นมาของสิงคโปร์ ถือว่าทำได้น่าสนใจดีทีเดียว

       เริ่มจาก Songs of the Sea เลยครับ แนะนำให้วางแผนดีๆเพราะต้องดูตอนกลางคืน อาจจะดูหลังจากเที่ยว Universal Studio เสร็จแล้วก็ได้ครับ แต่ถ้าเป็นรอบ 19:40 อาจจะต้องรีบหน่อยเพราะต้่องขึ้นรถไฟรางเดี่ยว (Monorail) ไปลงสถานีสุดท้ายริมหาดชื่อสถานี Beach Station  หลังจากนั้นก็ต้องซื้อตั๋ว แล้วก็รีบไปจับจองที่นั่งดีๆครับ 


อันนี้คืออาคารสถานีรถไฟ Beach Station

เดินมาตามทางไม่ไกลก็จะเห็นสถานที่แสดง Songs of the Sea 

คนเริ่มมาจับจองที่นั่งตั้งแต่ก่อนมืด (พยายามเลือกที่นั่งกลางๆนะครับ)

เตรียมเริ่มการแสดงแล้ว

มีการใช้ม่านน้ำ แสง สี เสียง และ "ไฟ" ได้อย่างสวยงามครับ

ฉากท้ายๆแล้วครับ

       เป็นอันจบการแสดงครับ ตอนขากลับก็ต้องต่อแถวขึ้นรถไฟกลับไปที่ Sentosa Station ในห้าง VivoCity ฝั่งเกาะสิงคโปร์ ซึ่งตอนจะรอขึ้นรถไฟต้องต่อแถวยาวหน่อยครับ เพราะคนเลิกจากการดู Songs of the Sea พร้อมๆกัน 
       
       สำหรับคนที่เสร็จจากการดู Songs of the Sea และกำลังหิว มองหาอะไรกิน อยากจะแนะนำ Food Center ชื่อ Food Loft ซึ่งตั้งอยู่ในห้าง VivoCity ครับ พอลงรถไฟที่สถานี Sentosa Station ในห้าง VivoCity แล้ว บนชั้นเดียวกันนั้นเอง จะเห็น Food Loft มีร้านอาหารให้เลือกจำนวนมาก ราคาไม่แพงครับ  เพราะดึงแล้วจะเข้าเมืองก็คงหิวมากเกินไป จะกินบนเกาะ Sentosa ก็แพงและมีอาหารให้เลือกไม่มากครับ ถือว่า Food Loft เป็นที่พึ่งได้ดีทีเดียว

บรรยากาศร้านอาหารใน Food Loft

Food Loft

       ถัดมาเป็น The Merlion ซึ่งตัวที่ตั้งอยู่ที่เกาะ Sentosa นั้นเป็นตัวที่ใหญ่กว่าที่อยู่บนอ่าวบนเกาะสิงคโปร์แถว Marina Bay สำหรับการเดินทางไปดู The Merlion ที่ตั้งอยู่บนเกาะ Sentosa นั้นให้นั่งรถไฟรางเดี่ยว (Monorail หรือ Sentosa Express) บนเกาะ Sentosa ไปลงที่สถานี Imbiah Station ก็จะใกล้ที่สุด หรือถ้าจะเดินจาก Universal Studio ที่สถานี Waterfront Station ก็ไม่ไกลมาก (แต่อาจจะร้อนหน่อย)

แผนที่การเดินทางบนเกาะ Sentosa

รถไฟ Sentosa Express

มีแค่ 4 สถานี ถ้าจะไป The Merlion ก็ลงที่สถานี Imbiah Station

      ตอนนั้นผมเดินจากสถานี Waterfront Station ไปเลย ใช้เวลาเดินประมาณซัก 10 นาทีได้ ตั้งใจว่าจะดูข้างทางซ้าย-ขวาไปด้วย แต่ก็ไม่มีอะไรมากครับ ส่วนมากจะเป็นโรงแรมและร้านค้าหรู

เดินจากสถานี Waterfront Station ก็จะเป็นวิวประมาณนี้ครับ

ขึ้นบันไดเลื่อนไปอีกหน่อยก็จะเห็น The Merlion แล้วครับ ไม่ไกล (แต่อากาศร้อนหน้าดู)

แผนที่ของ Resort World

เห็น The Merlion อยู่ที่ปลายทางเดินแล้วครับ ตัวใหญ่มาก

ซูมเข้าไปใกล้ๆ ด้านหลังไกลออกไปเป็นทะเล

คนมักจะมาแย่งกันถ่ายรูปกับป้าย Sentosa นี้

บรรยากาศรอบๆครับ

ทางเดินหน้า Merlion นี้เรียกว่า Merlion Walk เดินชมฟรีครับ

เดินอ้อมมาด้านหลังเป็นร้านขายของที่ระลึก(เข้าได้ฟรี) 
แต่ถ้าเข้าไปข้างบนรู้สึกจะเสียเงินครับ (คนละ 8 เหรียญ)

       The Merlion ก็ถือว่าเป็นที่ที่พลาดไม่ได้เพราะเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ และการเดินทางก็ไม่ลำบากอะไรครับ ถ้ามีเวลาเที่ยวบนเกาะ Sentosa ซักครึ่งวันก็น่าจะใส่ The Merlion ในโปรแกรมด้วยครับ 

สุดท้ายคือพิพิธพันฑ์ Images of Singapore ครับ อยู่ไม่ห่างจาก The Merlion เท่าไหร่นักใกล้กับสถานีรถไฟ Imbiah Station ของรถไฟฟ้าสาย Sentosa Express ครับ มีป้ายบอกทางไปตลอด

บรรยากาศข้างหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์ Images of Singapore

ที่ขายตั๋วครับ ผู้ใหญ่คนละ 10 เหรียญสิงคโปร์ (ประมาณ 240-250 บาท)

เข้าไปโซนแรกเป็นการฉายประวัติความเป็นมา 
แสดงให้เห็นถึงเชื้อชาติต่างๆที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์
(คนมาเลย์-จีน-อินเดีย-ฝรั่งตะวันตก)

หลังจากนั้นเป็นโซนพิพิธภัณฑ์จัดแสดงได้น่าสนใจทีเดียว

ประวัติความเป็นมาครับ

บรรยากาศภายในก็จัดไว้สวยงามทีเดียวกันครับ

ความรุ่งเรืองในช่วงท้าย

สุดท้ายแสดงความเจริญในปัจจุบัน และความสามัคคีของคนต่างเชื้อชาติ

       หลังจากที่ได้ดูเห็นรู้สึกว่าเค้าพยายามบอกว่าการที่มีคนหลายเชื้อชาติอยู่ด้วยกันนั้น ถือเป็นจุดแข็งของประเทศเค้า ทั้งๆที่ความเป็นจริงก็พบเห็นความแตกต่างและความไม่เป็นระเบียบอยู่พอสมควร ประเทศเจริญได้ด้วยเงินที่สร้างขึ้นมา ยิ่งดูแล้วเกิดความรู้สึกเปรียบเทียบกับประเทศไทยบ้านเราเลยครับ ที่มีทั้งทรัพยากรมากมาย คนเชื้อชาติเดียวกันพูดภาษาเดียวกัน ประเทศอยู่ใกล้กันแค่นี้แต่ความเจริญในปัจจุบันต่างกันมาก (อย่างน้อยก็ทางวัตถุหล่ะ) 

       นอกจากนั้น ผมมีรูปถ่ายบรรยากาศส่วนอื่นๆบนเกาะ Sentosa มาประมวลให้ดูกันด้วยครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังวางแผนเที่ยวสิงคโปร์อยู่ครับ 

มีรถกระเช้าขึ้นไปดูวิวและเล่นเครื่องเล่นอื่นๆด้วย

มีชายหาดด้วยครับ สวยดีเหมือนกัน ไม่รู้ว่าธรรมชาติหรือทำขึ้นมา

เครื่องเล่น 

นั่งรถแล้วไหลๆลงมาจากข้างบนเขาครับ
(ท่าทางน่าสนุกดีครับ มีเวลาอีกหน่อยคงได้เล่น)

อันนี้เล่นจบแล้วก็มาเก็บรถที่นี่

ตอนจะขึ้นไปก็ต้องนั่งกระเช้าแบบนี้ครับ

ที่นั่งเล่นริมชายหาด
 
ทางลาดให้เรือลงทะเล

มีการรักษาความปลอดภัยอย่างดีสำหรับคนมาเล่นน้ำ
 
รถรับ-ส่งบนเกาะ

ชายหาดอกมุมนึงครับ

ขากลับมาเกาะสิงคโปร์มองออกไปทางหน้าต่างรถไฟ
เห็นท่าเรือสินค้าขนาดใหญ่มาก สมกับเป็นเมืองท่าสำคัญ

     อันที่จริงสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะ Sentosa ที่น่าสนใจยังมีอีกมาก เช่น Underwater World และ Dolphin Lagoon ก็น่าสนใจครับ แต่ไม่มีเวลาได้เที่ยว ใครไปแล้วมีอะไรมาแนะนำก็ยินดีเลยครับ