ขณะนั่งรถรางข้ามเกาะไป Sentosa จะเห็นท่าเรือขนาดใหญ่
แสดงความเป็นเมืองท่าสำคัญ (ใหญ่กว่าคลองเตยหลายเท่า)
- ทรัพยากรน่อย ทั้งที่ดินแร่ฐานต่างๆก็น้อยทำให้ต้องใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า
- ประชากรน้อย จะผลิตอะไรก็ไม่คุ้ม ต้นทุนสูง ยกตัวอย่างเช่นจะตั้งโรงงานผลิตน้ำอัดลมแต่คนทั้งประเทศมีไม่มากถึงขายดียังไงก็อาจจะมีปริมาณไม่คุ้มกับที่ต้องลงทุน หรือการลงทุนซื้อเทคโนโลยี 3G ในราคาแพงแต่ใช้ในพื้นที่แคบๆคนจำนวนไม่มากก็ไม่คุ้ม นี่อาจเป็นสาเหตุนึงให้ Temasek ต่องใช้วิธีซื้อกิจการของประเทศอื่นเพื่อเพิ่มขอบข่ายการลงทุนและนำเข้าเทคโนโลยีเข้ามา
- ความหลากหลายของเชื้อชาติ อันนี้สับสนมากเพราะมีทั้งคนจีน แขก(อินเดีย) คนมาเลย์และคนท้องถิ่นอยู่ จะทำอะไรก็ลำบาก สังเกตุได้ง่ายๆจากโฆษณาทีวีที่ต้องพยายามหา presenter หน้าตาออกแนวลูกครึ่งแขก จะเอาแขกหรือจีน 100% มาแสดงคงไม่ได้รับความนิยมจากคนเชื้อชาติอื่น ละครทีวีก็มีทั้งหนังจีน หนังออกแนวอินเดีย คนสิงคโปร์เป็นชาติที่พยายามตะกายดาวมากอยากทำตัวตามฝรั่ง เห็นความเจริญของประเทศต่างๆก็พยายามทำเลียนแบบชนิดถอดมาให้เหมือน เช่นเห็นลอนดอนของประเทศอังกฤษมี London Eye พี่ลอดช่องก็เอามาทำ Singore Flyer ซะงั้น เห็นโอเปร่าเฮ้าส์ของออสเตรเลียก็เอามาทำ Esplanard อีก พฤติกรรมการใช้รถยนต์การสร้างรถไฟใต้ดินก็เช่นกัน อันที่จริงถ้าคิดถึงขนาดประเทศที่เล็กนิดเดียว การใช้จักรยานหรือมอเตอร์ไซค์น่าจะเหมาะสมที่สุดสะดวก มลพิษน้อย แต่เรากลับเห็นจักรยานและมอเตอร์โซค์ในสิงคโปร์น้อยมากกกกก ทั้งๆที่ประเทศเล็กนิดเดียวจริงๆและรถยนต์ก็มีราคาแพงมาก
พิพิธภัณฑ์ "Image of Singapore" ที่อยู่บนเกาะ Sentosa
บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของประเทศ
ทางรัฐบาลสิงคโปร์เองก็ดูเหมือนจะรู้ถึงข้อเสียเปรียบนี้ ปละกลัวว่าชาติที่มีทรัพยากรมากกว่าจะแซงหน้าเลยพยายามมาสกัดความเจริญ โดยเฉพาะแนวความคิดของไทยในการขุดคอคอดแถวจังหวัดชุมพอของไทยเพื่อเปิดทางให้เรือสินค้าผ่านซึ่งถือว่าอันตรายต่อสิงคโปร์มาก ตอนนั้นเคยได้ยินว่าทางสิงคโปร์มาให้เงินกับทางนักการเมืองไทยเพื่อล้มแนวความคิดนี้โดยใช้เหตุผลว่ากลัวจะเหิดการแบ่งแยกดินแดน ในเรื่องของทรัพยากรน้อยนั้น ทำให้ชาวสิงคโปร์จำนวนมากมากว้านซื้อที่ดินของไทยจำนวนมากในภาคใต้ ทั้งหมดนี้คือแนวคิดที่ได้จากการไปเที่ยวสิงคโปร์ในครั้งนี้ เห็นแล้วรู้สึกนิดๆว่ามันปล้นความเจริญของเมืองไทยมา
